รัฐบาลออกโรงเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้าง อนุทิน หรือ ศักดิ์สยาม ซื้อกระท่อม หลอกปลูกกระท่อมผิดกฎหมาย น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากกรณีสื่อมวลชนนำเสนอข่าวประชาชนหลายรายแจ้งความดำเนินคดีกับหญิงรายหนึ่งอายุประมาณ 40 ปี อ้างตนเป็นเจ้าหน้ารัฐ สังกัดกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หลอกลวงรับซื้อต้นกระท่อม เพื่อส่งให้รัฐมนตรีในรัฐบาล ทั้งนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว คมนาคม ขอเรียนว่า พฤติกรรมดังกล่าวเป็นการหลอกลวงประชาชน ขออย่าหลงเชื่อ โดยยืนยันว่าทั้ง 2 รัฐมนตรีไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับการกระทำดังกล่าว ขอให้ประชาชนระมัดระวัง อย่าตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ ที่อาจส่งผลให้สูญเสียทรัพย์สินได้
“รัฐมนตรี 2 ท่านไม่มีนโยบายหรือสั่งการให้ใครไปรับซื้อต้นกระท่อม
เช่นเดียวกับรัฐบาล ไม่มีนโยบาย ให้เจ้าหน้าที่รัฐหรือข้าราชการ ออกไปรวบรวมพืชกระท่อมในจำนวนมากเพื่อการส่งออก หรือการอุตสาหกรรม โดยการปลูก ค้าขาย หรือประกอบธุจกิจเกี่ยวกับพืชกระท่อมนั้น เป็นสิทธิที่ประชาชนสามารถทำได้ภายใต้กรอบกฎหมาย ซึ่งภาครัฐพร้อมสนับสนุนและอำนวยความสะดวก แต่ให้พึงระวังกลุ่มผู้ฉวยโอกาส อ้างตนเป็นเจ้าหน้าที่รัฐหลอกลวงเกษตรกรด้วยวิธีการต่างๆ ซึ่งระบาดอย่างแพร่หลายในเวลานี้” น.ส.ไตรศุลี กล่าว
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ช่วงเวลานี้พืชเศษฐกิจหลายชนิดกำลังได้รับความสนใจ ส่งผลให้เกิดการฉวยโอกาสของกลุ่มมิจฉาชีพ เช่นไม่นานมานี้ มีการส่งผลข้อมูลในโลกออนไลน์ ว่าใครที่สนใจปลูกกระท่อมสามารถลงทะเบียน เพื่อขอรับเงินสนับสนุนจากรัฐบาล 3,500-5,000 บาท/ไร่ โดยสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรกร กระทรวงเกษตรฯ ยืนยันแล้วว่า ไม่มีนโยบายเช่นนั้น
นอกจากนี้ ยังพบปัญหาระหว่างนายทุนกับเกษตรกร ที่มีข้อตกลงในการทำสัญญาปลูกพืชกระท่อม โดยเป็นการหลอกให้เกษตรกรปลูกเพื่อนำส่งบริษัทเอกชน แต่สุดท้ายก็ไม่เป็นไปตามข้อตกลง ทำให้เกษตรกรต้องเสียค่าต้นกล้า แต่ไม่มีการรับซื้อผลผลิตจริง ดังนั้น ขอให้ประชาชนได้ศึกษาข้อมูลก่อนการลงทุน สำหรับเกษตรกรที่สนใจลงทุนปลูกต้นกระท่อม ขอให้มีการวางแผนเพื่อตัดสินใจในการปลูกอย่างรอบคอบ
ศบค. ชุดใหญ่มีมติ ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 1 ต.ค. ซึ่งจากคำสั่งนี้จะส่งผลให้ ศบค. จะยุติการทำหน้าที่ตามไปด้วย ที่ประชุม ศบค. ชุดใหญ่โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีทำหน้าเป็นประธาน มีมติยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในวันที่ 1 ต.ค. 65 หลังจากที่ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉบับดังกล่าวเพื่อควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตั้งแต่ปี 2563
ศ.คลินิก นพ. อุดม คชินทร ที่ปรึกษา ศบค. เผยถึงการตัดสินใจยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินโควิดนี้ว่า เป็นผลมาจากการเปลี่ยนผ่านโควิด-19 จากโรคติดต่อร้ายแรง สู่โรคติดต่อเฝ้าระวัง และจากคำสั่งดังกล่าวจะทำให้ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด- 19 หรือ ศบค. สิ้นสุดตามลงไปด้วย
หลังจากนี้ จะใช้กฎหมายปกติควบคุมแทน รวมถึง ใช้มติคณะรัฐมนตรี บูรณาการการทำงานระหว่างกระทรวงแต่ละกระทรวง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ถูกประกาศใช้ครั้งแรกตั้งแต่ ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2563 และได้มีการขยายระยะเวลาต่อเนื่องจนมาถึงปัจจุบัน รวมแล้วมีการต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 19 ครั้ง
สตม. แจงกรณี จับมิสแกรนด์เมียนมาในไทย ชี้เอกสารไม่ครบ
สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ปัดไม่ได้มีการ จับมิสแกรนด์เมียนมา หรือ ฮาน เลย์ ชี้เอกสารไม่ครบ จึงปฏิเสธไม่ได้เข้าให้ประเทศไทย
สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ออกมาชี้แจงกรณีกระแสข่าวว่า ฮาน เลย์ มิสแกรนด์เมียนมาถูกจับกุมในประเทศไทย เนื่องจากวิพากษ์วิจารณ์ พล.อ.อาวุโส มินอ่องหล่าย ผู้นำเมียนมาที่ก่อรัฐประหารจากนาง อองซานซูจี เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2564 ที่ผ่านมา
ทาง พล.ต.ต. อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ยืนยันว่าไม่ได้มีการจับกุมมิสแกรนด์เมียนมา แต่ทางการไทยปฏิเสธไม่ให้เข้าเมืองเนื่องจาก ทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่าผิดเงื่อนไขการเข้าประเทศ ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ตรวจคนเข้าเมือง มาตรา 12 คือ ไม่มีหนังสือเดินทาง หรือเอกสารแทนหนังสือเดินทางอันถูกต้องสมบูรณ์
ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่อยู่ในระหว่างประสานงานกับสายการบินเพื่อนำตัว ฮาน เลย์ เดินทางออกนอกราชอาณาจักรต่อไป
ด้านกองประกวดที่ดูแล ฮาน เล เปิดเผยกับสำนักข่าว The Standard ว่าทาง ฮาน เลย์ ปลอดภัยดี ยังอยู่ในระหว่างการถูกปฏิเสธการเข้าเมืองที่สนามบินสุวรรณภูมิ ยังไม่มั่นใจว่าจะได้ออกจากสนามบินเมื่อใดแต่มีการขอลี้ภัยโดย UNHCR มาก่อนหน้านี้แล้ว
ในสมัยของพระนางบูเช็กเทียน ถือได้ว่าเป็นยุครุ่งเรืองของพระพุทธศาสนา ในซีรีส์ “ตำนานลั่วหยาง มีการนำเสนอวัดหรือรูปเคารพของศาสนาพุทธอยู่แทบตลอดทั้งเรื่อง ตามประวัติศาสตร์ พระนางบูเช็กเทียนทรงส่งเสริมและให้ความสำคัญแก่พระพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่ง มีการสร้างวัดและปฏิมากรรมในถ้ำ
ถ้ำผาหลงเหมิน ที่เป็น 1 ในถ้ำหินแกะสลักพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดของจีน โดยว่ากันว่าใบหน้าของพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สุดของถ้ำแห่งนี้ ถูกแกะสลักตามพระพักตร์ของจักรพรรดินีบูเช็กเทียนนั่นเอง
โบตั๋น ถือเป็นดอกไม้ประจำเมือง ลั่วหยาง ปกติแล้วจะมีเทศกาลชมดอกโบตั๋นเมืองลั่วหยาง ในช่วงกลางเดือนเมษายนของทุกปี
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป